เปิดบริษัทราบรื่น! อย่าพลาดจุดสำคัญในการเตรียมเอกสารจัดตั้งบริษัท
- Phannita Yoddamnoen
- 18 มิ.ย.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 1 ก.ค.

การเริ่มต้นเปิดบริษัทไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนสะดุดตั้งแต่ก้าวแรก คือ การ เตรียมเอกสารจัดตั้งบริษัท ที่ดูเหมือนยุ่งยากและเต็มไปด้วยขั้นตอนทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบฟอร์มราชการ เอกสารส่วนบุคคล หรือข้อมูลบริษัทต่างๆ ที่ทุกอย่างต้องครบถ้วน และต้องยื่นให้ถูกต้องตรงตามเงื่อนไขของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า เปิดบริษัทใหม่ต้องทำอะไรบ้าง ? ต้องใช้เอกสารจดทะเบียนบริษัท อะไรบ้าง ? หรือยังรู้สึกสับสนกับเงื่อนไขการยื่นเอกสารต่าง ๆ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกอย่างได้ง่ายขึ้น เริ่มตั้งแต่ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนได้ เอกสารสำหรับการจดทะเบียนนิติบุคคล จนไปถึงแนะแนวทางการเตรียมเอกสารเปิดบริษัทอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และทำได้ด้วยตัวเองได้
ประเภทธุรกิจที่สามารถจดทะเบียนได้
1.ห้างหุ้นส่วนสามัญ (ไม่จดทะเบียน) Non-registered Partnership
ห้างหุ้นส่วนสามัญ (ไม่จดทะเบียน) คือ การที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงร่วมกันทำธุรกิจ โดยแบ่งผลกำไรและขาดทุนตามสัดส่วนที่ตกลงกัน โดยยังไม่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ดังนั้นรูปแบบนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นนิติบุคคล และไม่มีสถานะทางกฎหมายแยกออกจากตัวผู้ร่วมทุน
ผลที่ตามมาคือ หุ้นส่วนทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบในหนี้สินของกิจการแบบไม่จำกัดจำนวน และหากกิจการมีปัญหาหรือติดหนี้ หุ้นส่วนแต่ละรายอาจต้องรับผิดด้วยทรัพย์สินส่วนตัวได้ ประเภทธุรกิจแบบนี้มักพบในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กหรือกิจการที่เริ่มต้นกันในกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว โดยยังไม่ได้ดำเนินการจัดตั้งกิจการอย่างเป็นทางการ
2.ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หส.) Limited Partnership
นิติบุคคลที่มีบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงเข้าหุ้นกัน เพื่อประกอบกิจการค้าร่วมกัน โดยมุ่งหวังกำไรและแบ่งปันกำไรระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งประกอบด้วยหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด และหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ทั้งนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัดต้องจดทะเบียนและมีสภาพเป็นนิติบุคคล กรณีที่ยังไม่ได้จดทะเบียน กฎหมายให้ถือว่าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ซึ่งมีผลให้หุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวนโดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด (Partner without Limited Liability) คือ หุ้นส่วนที่ต้องรับผิดชอบในหนี้ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนอย่างไม่จำกัดจำนวน
หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด (Limited Liability Partnership) คือ หุ้นส่วนที่ต้องรับผิดชอบในหนี้ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนไม่เกินจำนวนเงินที่ตกลงจะร่วมลงทุนด้วย ซึ่งหุ้นส่วนประเภทนี้จะมีเฉพาะแต่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดเท่านั้น
3.บริษัทจำกัด (บจก.) Company Limited
บริษัทจำกัด เป็นนิติบุคคลที่ได้รับความนิยมสูง เพราะโครงสร้างชัดเจนและช่วยจำกัดความรับผิดของผู้ถือหุ้นเฉพาะเงินค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบ ผู้ถือหุ้นต้องมีอย่างน้อย 2 คน และทุนของบริษัทต้องแบ่งออกเป็นหุ้นที่มีมูลค่าเท่ากัน (ไม่น้อยกว่า 5 บาทต่อหุ้น) บริษัทจำกัดเหมาะกับธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะธุรกิจที่วางแผนเติบโต เพราะมีความน่าเชื่อถือสูงและสามารถระดมทุนได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีระบบบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐาน และให้ความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ถือหุ้น
4.บริษัทมหาชนจำกัด (บมจ.) Public Company Limited
บริษัทมหาชนจำกัด คือ นิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีเจตนาจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปตามที่ระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ โดยต้องมีผู้เริ่มจัดตั้งตั้งแต่ 15 คนขึ้นไปเข้าร่วมกันเพื่อจัดตั้งบริษัท และมีกรรมการไม่น้อยกว่า 5 คน ซึ่งอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของกรรมการต้องมีที่อยู่ในประเทศไทยเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับทุนจดทะเบียนของบริษัทมหาชนจำกัด ไม่มีการกำหนดขั้นต่ำ แต่หุ้นของบริษัทจะต้องมีมูลค่าเท่ากันทุกหุ้น และต้องชำระค่าหุ้นเต็มมูลค่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ซื้อ หุ้นของผู้ถือหุ้นจึงมีความรับผิดจำกัดเฉพาะจำนวนเงินค่าหุ้นที่ได้ชำระไปเท่านั้น ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับความคุ้มครองด้านความเสี่ยงทางการเงินอย่างชัดเจน

เอกสารสำหรับการจดทะเบียนนิติบุคคล
การจัดตั้งธุรกิจให้มีสถานะทางกฎหมาย ต้องผ่านขั้นตอนการจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ซึ่งต้องใช้เอกสารจดทะเบียนบริษัทหรือเอกสารเปิดบริษัท ตามประเภทนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด ผู้ประกอบการควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเตรียมเอกสารครบถ้วน เพื่อให้การจดทะเบียนเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย
1.เอกสารหลักฐานในการจดทะเบียนจัดตั้ง "ห้างหุ้นส่วนจำกัด"
ในการขอจดทะเบียนต้องเตรียมเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้
คำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด (แบบ หส.1)
แบบคำรับรองการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน
รายการจดทะเบียน (แบบ หส.2) ห้างหุ้นส่วนจำกัดใช้ 3 หน้า/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลใช้เฉพาะหน้า 1 และหน้า 3
วัตถุประสงค์ (แบบ ว.)
แบบ สสช.1
ใบแจ้งผลการจองชื่อนิติบุคคลที่ยังไม่หมดอายุ
แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป
สำเนาหลักฐานการรับชำระเงินลงหุ้นที่ห้างหุ้นส่วนได้ออกให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วน
กรณีห้างหุ้นส่วนมีผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นคนต่างด้าวลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนไม่ถึงร้อยละ 50 ของเงินลงทุนให้ส่งเอกสารหลักฐานที่ธนาคารออกให้ เพื่อรับรองหรือแสดงฐานการเงินของผู้เป็นห้วนส่วนที่มีสัญชาติไทยแต่ละรายประกอบคำขอจดทะเบียน โดยเอกสารดังกล่าวต้องแสดงจำนวนเงินที่สอดคล้องกับจำนวนเงินที่นำมาลงหุ้นของผู้เป็นส่วนแต่ละราย
กรณีทุนที่ขอจดทะเบียนเกินกว่า 5 ล้านบาท ให้จัดส่งเอกสารเพิ่มเติมตามคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง
สำเนาบัตรประจำตัวของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน
สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
อัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน
การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน 1,000 บาท
หนังสือรับรอง รายการละ 40 บาท
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน ฉบับละ 100 บาท
รับรองสำเนาเอกสารคำขอจดทะเบียน หน้าละ 50 บาท
2.เอกสารหลักฐานในการจดทะเบียนจัดตั้ง "บริษัทจำกัด"
ในการขอจดทะเบียนต้องเตรียมเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้
คำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด (แบบ บอจ.1)
แบบคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด
รายการจดทะเบียนจังตั้ง (แบบ บอจ.3)
รายละเอียดกรรมการ (แบบ ก.)
บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5)
สำเนาหนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท
สำเนารายงานการประชุมตั้งบริษัท
สำเนาข้อบังคับ ชำระค่าอากรแสตมป์เป็นเงิน 200 บาท (ถ้ามี)
สำเนาหลักฐานการรับชำระค่าหุ้นที่บริษัทออกให้แก่ผู้ถือหุ้น
กรณีบริษัทจำกัดมีผู้ถือหุ้นเป็นคนต่างด้าวถือหุ้นในบริษัทจำกัดไม่ถึงร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนหรือกรณีบริษัทจำกัดไม่มีคนต่างด้าวเป็นผู้ถือหุ้น แต่คนต่างด้าวเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามหรือร่วมลงนามผูกพันบริษัทให้ส่งเอกสารหลักฐานที่ธนาคารออกให้ เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินของผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทยแต่ละรายประกอบคำขอจดทะเบียน โดยเอกสารดังกล่าวต้องแสดงจำนวนเงินที่สอดคล้องกับจำนวนเงินที่นำมาลงหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละรายตามคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง
กรณีทุนที่ขอจดทะเบียนเกินกว่า 5 ล้านบาท ให้จัดส่งเอกสารเพิ่มเติมตามคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง
แบบ สสช.
แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป
สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการทุกคน
สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
อัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนบริษัทจำกัด
การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน 5,000 บาท
หนังสือรับรอง รายการละ 40 บาท
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน ฉบับละ 100 บาท
รับรองสำเนาเอกสารคำขอจดทะเบียน หน้าละ 50 บาท
3.เอกสารหลักฐานในการจดทะเบียนจัดตั้ง "บริษัทจำกัดมหาชน"
คำขอจดทะเบียนให้ใช้แบบพิมพ์ตามที่นายทะเบียนจัดพิมพ์ขึ้นตามที่รัฐมนตรีกำหนด และต้องมีข้อความถูกต้อง ครบถ้วน ตามที่กำหนดไว้ในแบบพิมพ์ ซึ่งข้อความดังกล่าวต้องดีดพิมพ์หรือตีพิมพ์เป็นภาษาไทย และหากมีสำเนาเอกสารประกอบการจดทะเบียนผู้ขอจดทะเบียนต้องลงลายมือชื่อรับรอง ความถูกต้องของสำเนาเอกสารทุกหน้า ซึ่งการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด ใช้เอกสารดังนี้
คำขอจดทะเบียนตาม พ.ร.บ บริษัทมหาชนจำกัด (แบบ บมจ.101)
รายการข้อมูลของบริษัทมหาชนจำกัด (แบบ บมจ.005)
บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทมหาชนจำกัด (แบบ บมจ. 006)
ข้อบังคับของบริษัท
สำเนารายงานการประชุมจัดตั้งบริษัท
หนังสือของสถาบันการเงินแสดงว่าได้รับชำระค่าหุ้น โดยระบุจำนวนเงินที่ได้รับไว้ทั้งสิ้นประเภท และเลขบัญชีเงินฝาก
หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
อัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนบริษัทจำกัดมหาชน
การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน (ทุกจำนวนเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท แห่งจำนวนทุนที่กำหนดไว้ 1,000 บาท เศษของ 1,000,000 บาท ให้คิดเป็น 1,000,000 บาท
ค่าธรรมเนียมสูงสุด รวมแล้วไม่เกิน 250,000 บาท
หนังสือรับรอง ฉบับละ 40 บาท
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน 200 บาท
รับรองสำเนาเอกสารคำขอจดทะเบียน หน้าละ 50 บาท
หมายเหตุ; สำเนาเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนทุกฉบับ ต้องให้ผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนรับรองความถูกต้อง ยกเว้นสำเนาบัตรประจำตัวหรือหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียนให้ผู้เป็นเจ้าของบัตรหรือผู้ขอจดทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ลงมือลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง

4 เรื่องสำคัญ ในการเตรียม "เอกสารจดทะเบียน"
1. ตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน
ก่อนดำเนินการใด ๆ ควรเริ่มจากการรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนนิติบุคคลหรือการดำเนินธุรกิจ เช่น สำเนาบัตรประชาชนของผู้ก่อตั้ง หนังสือบริคณห์สนธิ แบบฟอร์มจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ฯลฯ โดยควรตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อป้องกันการยื่นเอกสารไม่ครบ ทำให้ต้องกลับมาแก้ไขซ้ำหลายรอบ
2. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
เมื่อได้เอกสารครบแล้ว ต้องตรวจสอบรายละเอียดในเอกสารทุกฉบับให้ถูกต้อง เช่น ชื่อ-นามสกุล ตัวสะกด ที่อยู่ จำนวนทุนจดทะเบียน หรือวัตถุประสงค์ของบริษัท เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องข้อมูลไม่ตรงกันระหว่างเอกสาร หรือเกิดข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ขั้นตอนการอนุมัติล่าช้า
3. จัดเตรียมเอกสารให้เป็นระเบียบ
การเรียงเอกสารให้เป็นหมวดหมู่ และใส่ปกหรือล็อกเอกสารให้เรียบร้อย จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงที่เอกสารจะสูญหาย หรือเข้าใจผิดระหว่างการตรวจสอบ ถือเป็นจุดเล็ก ๆ ที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ยื่นเอกสาร
4. ยื่นเอกสารให้ถูกต้องและทันเวลา
สุดท้าย ควรตรวจสอบว่าขั้นตอนการยื่นเอกสารแต่ละแบบต้องดำเนินการอย่างไร และต้องยื่นเมื่อใด เช่น การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทต้องยื่นภายใน 30 วันหลังจากประชุมจัดตั้งบริษัทเสร็จสิ้น นอกจากนี้ ควรยื่นเอกสารในรูปแบบที่หน่วยงานกำหนด เช่น ยื่นด้วยตนเอง ผ่านระบบออนไลน์ หรือไปรษณีย์ เพื่อให้กระบวนการไม่สะดุดหรือล่าช้า
ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการเตรียมเอกสารจัดตั้งบริษัท
ชื่อบริษัท แนะนำเตรียมชื่อไว้อย่างน้อย 3 ชื่อ (เรียงลำดับความต้องการ) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อที่เลือกไม่ซ้ำกับบริษัทอื่น และต้องผ่านการจองชื่อบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก่อน
วัตถุประสงค์ของบริษัท ระบุให้ชัดเจนว่าบริษัทประกอบธุรกิจอะไรบ้าง ควรครอบคลุมกิจกรรมที่จะทำในปัจจุบันและอนาคต เพื่อลดขั้นตอนการแก้ไขภายหลัง
ข้อมูลผู้ก่อตั้งและกรรมการ สำเนาบัตรประชาชนของผู้ร่วมก่อตั้ง (อย่างน้อย 3 คน สำหรับจดจัดตั้ง) และข้อมูลผู้เป็นกรรมการบริษัท พร้อมชื่อ, ที่อยู่ และอาชีพ ควรเตรียมข้อมูลเหล่านี้ให้ครบถ้วน
ทุนจดทะเบียนไม่มีขั้นต่ำ แต่หากจด VAT ต้องเกิน 1 ล้านบาท ไม่ต้องโอนเงินจริงตอนจดทะเบียน แต่ต้องระบุจำนวนหุ้นและมูลค่าหุ้นให้ครบ
จำนวนหุ้นและสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละผู้ถือหุ้น ระบุให้ชัดเจนว่าใครถือหุ้นกี่หุ้น คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
ที่อยู่สำนักงาน ต้องเป็นที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้จริง (หากเป็นคอนโด/บ้าน ต้องมีหนังสือยินยอมจากเจ้าของบ้าน/เจ้าของสถานที่)
ตรายาง หรือตราประทับบริษัท ควรออกแบบไว้ล่วงหน้า เพราะต้องใช้ตอนลงนามในเอกสาร
แบบฟอร์มจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และแบบคำขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ควรเป็นปัจจุบันเสมอ
การพิมพ์/เขียนเอกสาร ควรพิมพ์ให้ชัดเจน อ่านง่าย หรือหากเขียนด้วยลายมือ ต้องบรรจงเขียน ไม่มีการขีดฆ่าหรือแก้ไขที่ไม่เป็นระเบียบ
ควรเตรียมเอกสารตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เพื่อใช้ในการยื่นจดทะเบียน และเก็บไว้เป็นสำเนาของบริษัทด้วย
จากบทความนี้ ก็ทำให้เจ้าของธุรกิจที่กำลังจะเปิดบริษัทเข้าใจเรื่องการเตรียมเอกสารจัดตั้งบริษัทอย่างถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการจดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) หากผู้ประกอบการมีความเข้าใจรายละเอียดของเอกสารจดทะเบียนบริษัทและสามารถดำเนินการได้ตรงตามขั้นตอน ก็จะช่วยให้การเปิดบริษัทใหม่เป็นไปอย่างราบรื่นและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
และหากคุณต้องการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลของคู่ค้า หาข้อมูลธุรกิจ หรือวางแผนขยายตลาดอย่างมั่นใจ ทดลองใช้ Corpus X ฟรี วันนี้!! เพื่อเข้าถึงข้อมูลธุรกิจเชิงลึกที่เชื่อถือได้ พร้อมเริ่มต้นธุรกิจของคุณได้อย่างมืออาชีพ
อ้างอิง;
https://www.dbd.go.th/storage/manual/66c900f7-4df6-4344-b0c4-cd11a2ab7b20.pdf
https://www.dbd.go.th/storage/manual/ae86c29a-bfa5-44b7-b14e-8918810c7eea.pdf
https://www.dbd.go.th/storage/manual/df120409-74ba-44ce-9d53-3630332158e0.pdf