งบการเงิน คืออะไร เรื่องที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้ เพื่อให้บริษัทเติบโต
- Phannita Yoddamnoen
- 23 พ.ค.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 18 มิ.ย.

ทุกธุรกิจต่างรู้ดีว่า งบการเงินบริษัท คือ เอกสารที่แสดงภาพรวมทางการเงินของธุรกิจ และเป็นหน้าที่ที่ต้องจัดทำอย่างถูกต้อง แต่เคยสงสัยไหมว่า ความสำคัญของงบการเงินนั้นเป็นอย่างไร ?
จริง ๆ แล้ว งบการเงินบริษัทช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์งบการเงิน เพื่อดูสถานะภาพทางการเงินของบริษัทได้อย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องผลการดำเนินงาน กระแสเงินสด และการบริหารจัดการเงินในธุรกิจ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน ผู้บริหาร หรือแม้แต่พนักงานเอง
ยิ่งไปกว่านั้น งบการเงินยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนทางการเงิน ช่วยให้ธุรกิจสามารถวางกลยุทธ์ ปรับตัว และเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ดังนั้น การรู้จักและเข้าใจงบการเงินบริษัทอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารธุรกิจ เอาไว้เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคตของโลกธุรกิจ
งบการเงิน คืออะไร ?
งบการเงิน (Financial Statement) คือ รายงานที่ธุรกิจจัดทำขึ้นเพื่อแสดงถึงสถานะทางการเงินและผลประกอบการของบริษัทในช่วงเวลาหนึ่ง โดยงบการเงินจะแสดงภาพรวมเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น นักลงทุน เจ้าหนี้ และผู้บริหาร เข้าใจสถานะทางการเงินของบริษัทได้ เพื่อใช้ในการประเมินว่าธุรกิจดำเนินงานได้ดีเพียงใด และกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่
วัตถุประสงค์หลักของงบการเงิน
จุดประสงค์ทั่วไปของงบการเงินบริษัท คือ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน และกระแสเงินสดขององค์กรหรือธุรกิจ ข้อมูลนี้ถูกนำไปใช้โดยผู้อ่านงบการเงินเพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งงบการเงินแต่ละฉบับก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป โดยจะมี 3 เรื่องหลักๆ ดังนี้
แสดงสถานะทางการเงิน ผ่านรายงานงบกำไรขาดทุนที่มีไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่าธุรกิจสามารถสร้างกำไรได้มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังบอกปริมาณยอดขาย และลักษณะของค่าใช้จ่ายแต่ละประเภท และขึ้นอยู่กับว่ามีการสรุปค่าใช้จ่ายไว้อย่างไร หากธุรกิจมีการเปรียบเทียบงบนี้กำไรขาดในหลายช่วงเวลา ก็สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทได้ รวมถึงดูสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาหนึ่งว่า “สมเหตุสมผลหรือไม่” ด้วย
แสดงผลประกอบการ ดูได้จากงบดุลที่มีไว้เพื่อแสดงสถานะการเงินของธุรกิจ ตามวันที่ระบุไว้ในงบ เป็นเหมือนภาพรวมในวันนั้นว่า "บริษัทมีทรัพย์สิน หนี้สิน และเงินทุนอยู่เท่าไร" ซึ่งข้อมูลนี้สามารถใช้ประเมินสภาพคล่องทางการเงิน โครงสร้างเงินทุน และระดับหนี้สินได้ อีกทั้งยังใช้ในการคำนวณอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ ได้ด้วย
แสดงกระแสเงินสด งบกระแสเงินสดแสดงการเคลื่อนไหวของเงินสดเข้า-ออกในช่วงเวลาหนึ่ง โดยแบ่งตามกิจกรรมหลัก เช่น ดำเนินงาน การลงทุน และการจัดหาเงินทุน ข้อมูลนี้ช่วยให้เห็นภาพกระแสเงินสดที่แท้จริง ซึ่งอาจต่างจากยอดขายและค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน และยังช่วยตรวจจับความผิดปกติหรือการตกแต่งบัญชีได้ด้วย

องค์ประกอบหลักของงบการเงิน
1. งบแสดงฐานะทางการเงิน หรืองบดุล
แสดงสถานะทางการเงินของกิจการ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี โดยแสดงสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้นโดยอิงจากสมการพื้นฐานทางบัญชี ตามนี้
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น
2. งบกำไรขาดทุน
งบกำไรขาดทุน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ โดยระบุว่าในช่วงเวลาหนึ่ง ธุรกิจมีรายได้ เท่าไร และมีค่าใช้จ่ายเท่าไรบ้าง ซึ่งงบนี้มักเรียกอีกชื่อว่า งบแสดงผลกำไรขาดทุน หรืองบแสดงรายได้ โดยข้อมูลงบกำไรขาดทุนจะบอกรายละเอียดสำคัญ เช่น
รายได้ จากการขายสินค้า หรือให้บริการ
ค่าใช้จ่าย ที่ใช้ในการสร้างรายได้และบริหารจัดการธุรกิจ
กำไรสุทธิ (หรือขาดทุน) ที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
กำไรหรือขาดทุนจากกิจกรรมอื่น ที่ไม่ใช่การดำเนินงานหลักของธุรกิจในช่วงเวลานั้น
3. งบกระแสเงินสด
งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement) ของบริษัท เป็นรายงานที่แสดงการเคลื่อนไหวของเงินสดเข้าและออกจากธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่ง จุดประสงค์หลักของงบนี้คือช่วยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น นักลงทุน ผู้บริหาร หรือเจ้าหนี้ มองเห็นว่าเงินของบริษัทมาจากไหน และถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง และยังมีเงินเพียงพอสำหรับดำเนินธุรกิจต่อในอนาคตหรือไม่
ซึ่งงบกระแสเงินสดแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่หลัก ดังนี้
กิจกรรมดำเนินงาน (Operating Activities) เงินสดที่ได้จากการดำเนินธุรกิจประจำวัน เช่น การขายสินค้าและบริการ
กิจกรรมลงทุน (Investing Activities) เงินสดที่ใช้ไปหรือได้รับจากการลงทุน เช่น การซื้อเครื่องจักร หรือขายทรัพย์สิน
กิจกรรมจัดหาเงิน (Financing Activities) เงินสดที่ได้จากการกู้ยืม การชำระหนี้ หรือการออกหุ้น
4. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น
งบแสดงส่วนของผู้ถือหุ้น คือ รายงานที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของส่วนทุนของผู้ถือหุ้นตลอดช่วงเวลาที่รายงาน โดยงบนี้จะทำงานร่วมกับงบดุล เพื่อช่วยให้วิเคราะห์ได้ว่าหุ้นของบริษัทนั้นมีความคุ้มค่าน่าลงทุนหรือไม่ และงบส่วนนี้ยังช่วยให้เห็นว่า “หลังจากบริษัทชำระหนี้สินทั้งหมดและคิดรวมสินทรัพย์ทุกประเภทแล้ว” จะเหลือเงินอยู่ในมือเท่าไหร่ที่เป็นของผู้ถือหุ้น ถ้าผลลัพธ์ออกมาเป็นบวก แสดงถึงความมั่นคงของธุรกิจ แต่ถ้าติดลบ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางการเงินที่อาจรุนแรงจนถึงขั้นล้มละลายได้ในอนาคต
5. หมายเหตุประกอบงบการเงิน
หมายเหตุประกอบงบการเงิน (Notes to the Financial Statements) คือ รายงานส่วนที่อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมที่ใช้ประกอบการจัดทำงบการเงิน แสดงข้อมูลเกี่ยวกับเกณฑ์การจัดทำงบการเงินและนโยบายบัญชีเฉพาะที่กิจการใช้ เพื่อให้ผู้ที่ตรวจสอบเข้าใจข้อมูลได้อย่างถูกต้องและวิเคราะห์ข้อมูลได้ชัดเจนมากขึ้น โดยมักจะเปิดเผยข้อมูลในประเด็นสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น
นโยบายบัญชีและสมมติฐานที่ใช้ ในการจัดทำงบการเงิน เช่น วิธีประเมินมูลค่าทรัพย์สิน หรือการคำนวณค่าเสื่อมราคา
ข้อมูลเพิ่มเติมของรายการในงบ เช่น รายละเอียดของเจ้าหนี้และลูกหนี้, การแยกยอดรายได้ตามประเภทหรือกลุ่มธุรกิจ และระยะเวลาการตัดค่าเสื่อมของสินทรัพย์ระยะยาว
ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการส่วนทุน เช่น นโยบายและแนวทางที่ใช้บริหารทุน, การรักษาระดับเงินทุนจากภายนอกกิจการ
ข้อมูลประเมินมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์และหนี้สินบางประเภท เช่น มูลค่าที่ดิน, อาคารที่คาดว่าจะได้รับคืน, มูลค่าสินค้าคงเหลือ หรือภาระผูกพันจากคดีความและเงินบำนาญ
ข้อมูลสำคัญอื่นๆ เช่น จำนวนเงินปันผลที่เสนอหรือประกาศจ่ายก่อนวันที่งบการเงินถูกอนุมัติ และข้อมูลเกี่ยวกับกิจการใหม่

ความสำคัญของงบการเงินบริษัท มีอะไรบ้าง
1. ใช้ประกอบการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร
งบการเงินเป็นรายงานทางการเงินที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทในหลากหลายด้าน โดยงบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด ช่วยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างรายได้และทำกำไรของธุรกิจ ส่วนงบดุลจะแสดงภาพรวมเกี่ยวกับสภาพคล่อง ความมั่นคงทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ เมื่อฝ่ายบริหารมีข้อมูลเหล่านี้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ก็สามารถใช้วิเคราะห์งบการเงินประกอบการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ เช่น การวางแผนลงทุนในอนาคต การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
งบการเงินของบริษัทช่วยให้นักลงทุนประเมินความมั่นคงของบริษัทได้ พวกเขาสามารถรู้ได้เลยว่า บริษัทมีการบริหารจัดการอย่างรอบคอบเพียงใด มีความแข็งแกร่งในการอยู่รอดแค่ไหน และมีความสามารถในการเติบโตหรือไม่ ข้อมูลจากรายงานงบการเงินนี้ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจว่าจะซื้อ ถือ หรือขาย และจะซื้อหรือขายมากน้อยเพียงใด บริษัทที่มีงบการเงินที่ดีและโปร่งใสจะสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจได้มากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการระดมทุนจากนักลงทุน ธนาคาร และบริษัทร่วมลงทุน
3. เพิ่มความน่าเชื่อถือในการขอสินเชื่อ
เมื่อบริษัทสมัครขอสินเชื่อหรือวงเงินสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน (Financial Institution) สถาบันเหล่านี้จะตรวจสอบงบการเงินของบริษัทนั้น ๆ ก่อนที่จะอนุมัติหรือปฏิเสธคำขอการกู้ยืม งบการเงินที่จัดทำขึ้นอย่างดีช่วยให้สถาบันการเงินผู้ให้กู้สามารถประเมินความสามารถของบริษัทในการชำระคืนเงินกู้ จัดการสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษากระแสเงินสดที่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงสถานะทางการเงินและเครดิตทางการเงินของบริษัทอย่างชัดเจน สถาบันการเงินจะทำการตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ เพื่อใช้กำหนดระดับความเสี่ยงของเงินกู้และเงื่อนไขการให้กู้ยืม
4. การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
บริษัทส่วนใหญ่มีหน้าที่ตามกฎหมายในการจัดทำและยื่นงบการเงินเป็นประจำทุกปี โดยต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนด และต้องยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และ กรมสรรพากร เพื่อใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องและเสียภาษีอย่างเหมาะสม
งบการเงินเหล่านี้มีไว้เพื่อสะท้อนภาพรวมทางการเงินของกิจการอย่างชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน คู่ค้า สถาบันการเงิน รวมถึงช่วยให้ตลาดธุรกิจดำเนินไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
5. เปรียบเทียบผลประกอบการและประเมินประสิทธิภาพ
งบการเงินช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์งบการเงิน และเปรียบเทียบผลประกอบการของตนกับมาตรฐานในอุตสาหกรรม บริษัทคู่แข่งอื่นในกลุ่มเดียวกันได้ โดยการใช้เทคนิคการอ่านงบการเงิน เพื่อดูอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ และเปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายกัน จะช่วยให้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อน และหาโอกาสในการพัฒนาองค์กร รวมถึงประเมินความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
6. ช่วยในการวางแผนภาษี
งบการเงินมีบทบาทสำคัญในการช่วย การวางแผนทางการเงิน เพราะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึง รายได้และค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจริงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจาก รายงานงบการเงิน และ งบกระแสเงินสด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินภาระภาษีได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งวางแผนลดภาระภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้การยื่นภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสอดคล้องกับข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
การส่งงบการเงินและรายงานทางการเงิน
การจัดทำงบการเงินไม่ใช่แค่เพื่อตอบโจทย์ภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังมีหลายกลุ่มที่สามารถ "ร้องขอ" หรือ "จำเป็นต้องใช้" งบการเงินและรายงานประกอบงบ เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้
ธนาคารและสถาบันการเงิน ใช้เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หรือวงเงินธุรกรรมทางการเงิน
นักลงทุน / หุ้นส่วนทางธุรกิจ ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนหรือประเมินความมั่นคงของบริษัท
หน่วยงานกำกับดูแล เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สำนักงาน ก.ล.ต., กรมสรรพากร เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agencies) เพื่อประเมินความเสี่ยงของกิจการก่อนให้คะแนนเครดิต
บริษัทประกัน หรือผู้ค้ำประกัน (Bonding & Insurance Companies) ใช้พิจารณาความสามารถในการรับความเสี่ยงของบริษัท
คู่ค้าและซัพพลายเออร์ ตรวจสอบความมั่นคงทางการเงินก่อนทำสัญญาธุรกิจระยะยาว
นักวิเคราะห์การเงิน/ที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพและทิศทางของกิจการ
พนักงานหรือสหภาพแรงงาน ใช้สำหรับการประกอบการเจรจาค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์
ควรเตรียม “งบการเงินที่ถูกต้องและโปร่งใส” ไว้เสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเปิดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหรือความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้
งบการเงินไม่ใช่แค่เอกสารสำหรับนักบัญชีหรือผู้ตรวจสอบเท่านั้น แต่คือ เครื่องมือสำคัญที่บอกคุณว่า “ธุรกิจของคุณเดินมาถูกทางหรือเปล่า” และช่วยให้คุณรู้ทันปัญหาก่อนจะสายเกินไป เช่น ขายดีแต่ไม่มีกำไร เงินหายไปไหนหมด หรือทุนไหลออกโดยไม่รู้ตัว การอ่านและวิเคราะห์งบการเงินจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ “ทักษะที่เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารต้องมี” เพราะมันจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมสถานะทางการเงินของธุรกิจแบบทะลุปุโปร่ง สามารถวางแผนการเงิน การลงทุน และกลยุทธ์การเติบโตได้แม่นยำ รวมไปถึงรู้ทันความเสี่ยง และแก้เกมได้ทันก่อนจะธุรกิจจะสะดุด
การวางแผนธุรกิจที่แม่นยำ เริ่มต้นจากการมีข้อมูลที่ถูกต้องและอัปเดตอยู่เสมอ นั่นคือเหตุผลที่หลายธุรกิจควรใช้ Corpus X แพลตฟอร์มข้อมูลที่ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของนิติบุคคลในไทยได้อย่างง่ายดาย เพราะค้นหาและดูงบการเงินย้อนหลังของบริษัทต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว วิเคราะห์แนวโน้มรายได้ กำไร และหนี้สินแบบเข้าใจง่าย ประเมินความน่าเชื่อถือของพาร์ทเนอร์ คู่ค้า หรือคู่แข่งได้ทันที ช่วยตัดสินใจทางธุรกิจโดยอ้างอิงจากข้อมูลจริง ไม่ต้องเดา
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือเจ้าของกิจการที่ต้องการ “วางแผนทางการเงิน” อย่างมืออาชีพ เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ข้อมูลแม่นยำ และลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาดได้อย่างมาก ทดลองใช้ Corpus X ฟรี แล้วเริ่มอ่านงบการเงินอย่างมีประสิทธิภาพได้เลย!