งบการเงิน คืออะไร เรื่องที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้ เพื่อให้บริษัทเติบโต
top of page

งบการเงิน คืออะไร เรื่องที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้ เพื่อให้บริษัทเติบโต

อัปเดตเมื่อ 18 มิ.ย.

ree

ทุกธุรกิจต่างรู้ดีว่า งบการเงินบริษัท คือ เอกสารที่แสดงภาพรวมทางการเงินของธุรกิจ และเป็นหน้าที่ที่ต้องจัดทำอย่างถูกต้อง แต่เคยสงสัยไหมว่า ความสำคัญของงบการเงินนั้นเป็นอย่างไร ?


จริง ๆ แล้ว งบการเงินบริษัทช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์งบการเงิน เพื่อดูสถานะภาพทางการเงินของบริษัทได้อย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องผลการดำเนินงาน กระแสเงินสด และการบริหารจัดการเงินในธุรกิจ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน ผู้บริหาร หรือแม้แต่พนักงานเอง


ยิ่งไปกว่านั้น งบการเงินยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนทางการเงิน ช่วยให้ธุรกิจสามารถวางกลยุทธ์ ปรับตัว และเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ดังนั้น การรู้จักและเข้าใจงบการเงินบริษัทอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารธุรกิจ เอาไว้เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคตของโลกธุรกิจ


งบการเงิน คืออะไร ?


งบการเงิน (Financial Statement) คือ รายงานที่ธุรกิจจัดทำขึ้นเพื่อแสดงถึงสถานะทางการเงินและผลประกอบการของบริษัทในช่วงเวลาหนึ่ง โดยงบการเงินจะแสดงภาพรวมเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น นักลงทุน เจ้าหนี้ และผู้บริหาร เข้าใจสถานะทางการเงินของบริษัทได้ เพื่อใช้ในการประเมินว่าธุรกิจดำเนินงานได้ดีเพียงใด และกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่


วัตถุประสงค์หลักของงบการเงิน


จุดประสงค์ทั่วไปของงบการเงินบริษัท คือ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน และกระแสเงินสดขององค์กรหรือธุรกิจ ข้อมูลนี้ถูกนำไปใช้โดยผู้อ่านงบการเงินเพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งงบการเงินแต่ละฉบับก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป โดยจะมี 3 เรื่องหลักๆ ดังนี้


  1. แสดงสถานะทางการเงิน ผ่านรายงานงบกำไรขาดทุนที่มีไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่าธุรกิจสามารถสร้างกำไรได้มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังบอกปริมาณยอดขาย และลักษณะของค่าใช้จ่ายแต่ละประเภท และขึ้นอยู่กับว่ามีการสรุปค่าใช้จ่ายไว้อย่างไร หากธุรกิจมีการเปรียบเทียบงบนี้กำไรขาดในหลายช่วงเวลา ก็สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทได้ รวมถึงดูสัดส่วนของค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาหนึ่งว่า “สมเหตุสมผลหรือไม่” ด้วย

  2. แสดงผลประกอบการ ดูได้จากงบดุลที่มีไว้เพื่อแสดงสถานะการเงินของธุรกิจ ตามวันที่ระบุไว้ในงบ เป็นเหมือนภาพรวมในวันนั้นว่า "บริษัทมีทรัพย์สิน หนี้สิน และเงินทุนอยู่เท่าไร" ซึ่งข้อมูลนี้สามารถใช้ประเมินสภาพคล่องทางการเงิน โครงสร้างเงินทุน และระดับหนี้สินได้ อีกทั้งยังใช้ในการคำนวณอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ ได้ด้วย

  3. แสดงกระแสเงินสด งบกระแสเงินสดแสดงการเคลื่อนไหวของเงินสดเข้า-ออกในช่วงเวลาหนึ่ง โดยแบ่งตามกิจกรรมหลัก เช่น ดำเนินงาน การลงทุน และการจัดหาเงินทุน ข้อมูลนี้ช่วยให้เห็นภาพกระแสเงินสดที่แท้จริง ซึ่งอาจต่างจากยอดขายและค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน และยังช่วยตรวจจับความผิดปกติหรือการตกแต่งบัญชีได้ด้วย


องค์ประกอบหลักของงบการเงิน

องค์ประกอบหลักของงบการเงิน


1. งบแสดงฐานะทางการเงิน หรืองบดุล

แสดงสถานะทางการเงินของกิจการ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี โดยแสดงสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้นโดยอิงจากสมการพื้นฐานทางบัญชี ตามนี้


สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น


2. งบกำไรขาดทุน

งบกำไรขาดทุน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ โดยระบุว่าในช่วงเวลาหนึ่ง ธุรกิจมีรายได้ เท่าไร และมีค่าใช้จ่ายเท่าไรบ้าง ซึ่งงบนี้มักเรียกอีกชื่อว่า งบแสดงผลกำไรขาดทุน หรืองบแสดงรายได้ โดยข้อมูลงบกำไรขาดทุนจะบอกรายละเอียดสำคัญ เช่น

  • รายได้ จากการขายสินค้า หรือให้บริการ

  • ค่าใช้จ่าย ที่ใช้ในการสร้างรายได้และบริหารจัดการธุรกิจ

  • กำไรสุทธิ (หรือขาดทุน) ที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด

  • กำไรหรือขาดทุนจากกิจกรรมอื่น ที่ไม่ใช่การดำเนินงานหลักของธุรกิจในช่วงเวลานั้น


3. งบกระแสเงินสด

งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement) ของบริษัท เป็นรายงานที่แสดงการเคลื่อนไหวของเงินสดเข้าและออกจากธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่ง จุดประสงค์หลักของงบนี้คือช่วยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น นักลงทุน ผู้บริหาร หรือเจ้าหนี้ มองเห็นว่าเงินของบริษัทมาจากไหน และถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง และยังมีเงินเพียงพอสำหรับดำเนินธุรกิจต่อในอนาคตหรือไม่


ซึ่งงบกระแสเงินสดแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่หลัก ดังนี้

  1. กิจกรรมดำเนินงาน (Operating Activities) เงินสดที่ได้จากการดำเนินธุรกิจประจำวัน เช่น การขายสินค้าและบริการ

  2. กิจกรรมลงทุน (Investing Activities) เงินสดที่ใช้ไปหรือได้รับจากการลงทุน เช่น การซื้อเครื่องจักร หรือขายทรัพย์สิน

  3. กิจกรรมจัดหาเงิน (Financing Activities) เงินสดที่ได้จากการกู้ยืม การชำระหนี้ หรือการออกหุ้น


4. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น

งบแสดงส่วนของผู้ถือหุ้น คือ รายงานที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของส่วนทุนของผู้ถือหุ้นตลอดช่วงเวลาที่รายงาน โดยงบนี้จะทำงานร่วมกับงบดุล เพื่อช่วยให้วิเคราะห์ได้ว่าหุ้นของบริษัทนั้นมีความคุ้มค่าน่าลงทุนหรือไม่ และงบส่วนนี้ยังช่วยให้เห็นว่า “หลังจากบริษัทชำระหนี้สินทั้งหมดและคิดรวมสินทรัพย์ทุกประเภทแล้ว” จะเหลือเงินอยู่ในมือเท่าไหร่ที่เป็นของผู้ถือหุ้น ถ้าผลลัพธ์ออกมาเป็นบวก แสดงถึงความมั่นคงของธุรกิจ แต่ถ้าติดลบ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางการเงินที่อาจรุนแรงจนถึงขั้นล้มละลายได้ในอนาคต


5. หมายเหตุประกอบงบการเงิน

หมายเหตุประกอบงบการเงิน (Notes to the Financial Statements) คือ รายงานส่วนที่อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมที่ใช้ประกอบการจัดทำงบการเงิน แสดงข้อมูลเกี่ยวกับเกณฑ์การจัดทำงบการเงินและนโยบายบัญชีเฉพาะที่กิจการใช้ เพื่อให้ผู้ที่ตรวจสอบเข้าใจข้อมูลได้อย่างถูกต้องและวิเคราะห์ข้อมูลได้ชัดเจนมากขึ้น โดยมักจะเปิดเผยข้อมูลในประเด็นสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น


  1. นโยบายบัญชีและสมมติฐานที่ใช้ ในการจัดทำงบการเงิน เช่น วิธีประเมินมูลค่าทรัพย์สิน หรือการคำนวณค่าเสื่อมราคา

  2. ข้อมูลเพิ่มเติมของรายการในงบ เช่น รายละเอียดของเจ้าหนี้และลูกหนี้, การแยกยอดรายได้ตามประเภทหรือกลุ่มธุรกิจ และระยะเวลาการตัดค่าเสื่อมของสินทรัพย์ระยะยาว

  3. ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการส่วนทุน เช่น นโยบายและแนวทางที่ใช้บริหารทุน, การรักษาระดับเงินทุนจากภายนอกกิจการ

  4. ข้อมูลประเมินมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์และหนี้สินบางประเภท เช่น มูลค่าที่ดิน, อาคารที่คาดว่าจะได้รับคืน, มูลค่าสินค้าคงเหลือ หรือภาระผูกพันจากคดีความและเงินบำนาญ

  5. ข้อมูลสำคัญอื่นๆ เช่น จำนวนเงินปันผลที่เสนอหรือประกาศจ่ายก่อนวันที่งบการเงินถูกอนุมัติ และข้อมูลเกี่ยวกับกิจการใหม่


ความสำคัญของงบการเงินบริษัท มีอะไรบ้าง

ความสำคัญของงบการเงินบริษัท มีอะไรบ้าง


1. ใช้ประกอบการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร

งบการเงินเป็นรายงานทางการเงินที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทในหลากหลายด้าน โดยงบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด ช่วยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างรายได้และทำกำไรของธุรกิจ ส่วนงบดุลจะแสดงภาพรวมเกี่ยวกับสภาพคล่อง ความมั่นคงทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ เมื่อฝ่ายบริหารมีข้อมูลเหล่านี้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ก็สามารถใช้วิเคราะห์งบการเงินประกอบการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ เช่น การวางแผนลงทุนในอนาคต การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


2. สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน

งบการเงินของบริษัทช่วยให้นักลงทุนประเมินความมั่นคงของบริษัทได้ พวกเขาสามารถรู้ได้เลยว่า บริษัทมีการบริหารจัดการอย่างรอบคอบเพียงใด มีความแข็งแกร่งในการอยู่รอดแค่ไหน และมีความสามารถในการเติบโตหรือไม่ ข้อมูลจากรายงานงบการเงินนี้ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจว่าจะซื้อ ถือ หรือขาย และจะซื้อหรือขายมากน้อยเพียงใด บริษัทที่มีงบการเงินที่ดีและโปร่งใสจะสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจได้มากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการระดมทุนจากนักลงทุน ธนาคาร และบริษัทร่วมลงทุน


3. เพิ่มความน่าเชื่อถือในการขอสินเชื่อ

เมื่อบริษัทสมัครขอสินเชื่อหรือวงเงินสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน (Financial Institution) สถาบันเหล่านี้จะตรวจสอบงบการเงินของบริษัทนั้น ๆ ก่อนที่จะอนุมัติหรือปฏิเสธคำขอการกู้ยืม งบการเงินที่จัดทำขึ้นอย่างดีช่วยให้สถาบันการเงินผู้ให้กู้สามารถประเมินความสามารถของบริษัทในการชำระคืนเงินกู้ จัดการสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษากระแสเงินสดที่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงสถานะทางการเงินและเครดิตทางการเงินของบริษัทอย่างชัดเจน สถาบันการเงินจะทำการตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ เพื่อใช้กำหนดระดับความเสี่ยงของเงินกู้และเงื่อนไขการให้กู้ยืม


4. การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย

บริษัทส่วนใหญ่มีหน้าที่ตามกฎหมายในการจัดทำและยื่นงบการเงินเป็นประจำทุกปี โดยต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนด และต้องยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และ กรมสรรพากร เพื่อใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องและเสียภาษีอย่างเหมาะสม


งบการเงินเหล่านี้มีไว้เพื่อสะท้อนภาพรวมทางการเงินของกิจการอย่างชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน คู่ค้า สถาบันการเงิน รวมถึงช่วยให้ตลาดธุรกิจดำเนินไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้


5. เปรียบเทียบผลประกอบการและประเมินประสิทธิภาพ

งบการเงินช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์งบการเงิน และเปรียบเทียบผลประกอบการของตนกับมาตรฐานในอุตสาหกรรม บริษัทคู่แข่งอื่นในกลุ่มเดียวกันได้ โดยการใช้เทคนิคการอ่านงบการเงิน เพื่อดูอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ และเปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายกัน จะช่วยให้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อน และหาโอกาสในการพัฒนาองค์กร รวมถึงประเมินความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


6. ช่วยในการวางแผนภาษี

งบการเงินมีบทบาทสำคัญในการช่วย การวางแผนทางการเงิน เพราะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึง รายได้และค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจริงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจาก รายงานงบการเงิน และ งบกระแสเงินสด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินภาระภาษีได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งวางแผนลดภาระภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้การยื่นภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสอดคล้องกับข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย


การส่งงบการเงินและรายงานทางการเงิน

การจัดทำงบการเงินไม่ใช่แค่เพื่อตอบโจทย์ภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังมีหลายกลุ่มที่สามารถ "ร้องขอ" หรือ "จำเป็นต้องใช้" งบการเงินและรายงานประกอบงบ เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้


  1. ธนาคารและสถาบันการเงิน ใช้เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หรือวงเงินธุรกรรมทางการเงิน

  2. นักลงทุน / หุ้นส่วนทางธุรกิจ ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนหรือประเมินความมั่นคงของบริษัท

  3. หน่วยงานกำกับดูแล เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สำนักงาน ก.ล.ต., กรมสรรพากร เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย

  4. บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agencies) เพื่อประเมินความเสี่ยงของกิจการก่อนให้คะแนนเครดิต

  5. บริษัทประกัน หรือผู้ค้ำประกัน (Bonding & Insurance Companies) ใช้พิจารณาความสามารถในการรับความเสี่ยงของบริษัท

  6. คู่ค้าและซัพพลายเออร์ ตรวจสอบความมั่นคงทางการเงินก่อนทำสัญญาธุรกิจระยะยาว

  7. นักวิเคราะห์การเงิน/ที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพและทิศทางของกิจการ

  8. พนักงานหรือสหภาพแรงงาน ใช้สำหรับการประกอบการเจรจาค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์


ควรเตรียม “งบการเงินที่ถูกต้องและโปร่งใส” ไว้เสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเปิดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหรือความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้

งบการเงินไม่ใช่แค่เอกสารสำหรับนักบัญชีหรือผู้ตรวจสอบเท่านั้น แต่คือ เครื่องมือสำคัญที่บอกคุณว่า “ธุรกิจของคุณเดินมาถูกทางหรือเปล่า” และช่วยให้คุณรู้ทันปัญหาก่อนจะสายเกินไป เช่น ขายดีแต่ไม่มีกำไร เงินหายไปไหนหมด หรือทุนไหลออกโดยไม่รู้ตัว การอ่านและวิเคราะห์งบการเงินจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ “ทักษะที่เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารต้องมี” เพราะมันจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมสถานะทางการเงินของธุรกิจแบบทะลุปุโปร่ง สามารถวางแผนการเงิน การลงทุน และกลยุทธ์การเติบโตได้แม่นยำ รวมไปถึงรู้ทันความเสี่ยง และแก้เกมได้ทันก่อนจะธุรกิจจะสะดุด


การวางแผนธุรกิจที่แม่นยำ เริ่มต้นจากการมีข้อมูลที่ถูกต้องและอัปเดตอยู่เสมอ นั่นคือเหตุผลที่หลายธุรกิจควรใช้ Corpus X แพลตฟอร์มข้อมูลที่ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของนิติบุคคลในไทยได้อย่างง่ายดาย เพราะค้นหาและดูงบการเงินย้อนหลังของบริษัทต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว วิเคราะห์แนวโน้มรายได้ กำไร และหนี้สินแบบเข้าใจง่าย ประเมินความน่าเชื่อถือของพาร์ทเนอร์ คู่ค้า หรือคู่แข่งได้ทันที ช่วยตัดสินใจทางธุรกิจโดยอ้างอิงจากข้อมูลจริง ไม่ต้องเดา


ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือเจ้าของกิจการที่ต้องการ “วางแผนทางการเงิน” อย่างมืออาชีพ เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ข้อมูลแม่นยำ และลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาดได้อย่างมาก ทดลองใช้ Corpus X ฟรี แล้วเริ่มอ่านงบการเงินอย่างมีประสิทธิภาพได้เลย!

bottom of page