top of page

ทะเบียนพาณิชย์ คืออะไร ? สำคัญอย่างไรสำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ

อัปเดตเมื่อ 23 ก.ย.

ree

"ธุรกิจเล็กๆ ไม่ต้องจดทะเบียนหรอก" ถ้าคุณยังคิดแบบนี้อยู่ เตรียมพบกับความจริงที่อาจทำให้คุณต้องเสียใจ!


ทุกวันนี้ผู้ประกอบการหลายรายโดนปรับ โดนฟ้อง หรือแย่กว่านั้นคือ สูญเสียลูกค้าไป เพียงเพราะไม่มีทะเบียนพาณิชย์ ในขณะที่คู่แข่งที่มีใบทะเบียนกลับได้รับความไว้วางใจและโอกาสทางธุรกิจมากมาย แล้วคุณล่ะ? พร้อมจะเสี่ยงแบบนี้มั้ย? ลองจินตนาการดูสิ เมื่อลูกค้าต้องเลือกระหว่างร้านที่มีทะเบียนพาณิชย์กับร้านที่ไม่มี พวกเขาจะเลือกใคร? หรือเมื่อนักลงทุนมองหาธุรกิจน่าสนใจ พวกเขาจะให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ "ไม่มีตัวตน" ทางกฎหมายหรือเปล่า


ทะเบียนพาณิชย์ไม่ใช่แค่กระดาษใบหนึ่ง แต่เป็น "พาสปอร์ต" สำคัญที่จะพาธุรกิจของคุณเดินทางไปสู่ความสำเร็จ เป็นสัญลักษณ์ของความน่าเชื่อถือ ถูกต้องตามกฎหมาย และที่สำคัญคือ ประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่เคยคิดมาก่อน หากคุณอยากให้ธุรกิจเติบโตหรือเปิดบริษัท เปิดโอกาสให้ตัวเองไปถึงจุดหมายที่ใหญ่กว่าเดิม การทำความเข้าใจเรื่องทะเบียนพาณิชย์คือสิ่งแรกที่คุณต้องทำ


ทะเบียนพาณิชย์ คืออะไร


ทะเบียนพาณิชย์ (หรือชื่อเดิม ทะเบียนการค้า) คือ การจดแจ้งการประกอบธุรกิจการค้ากับหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ธุรกิจมีตัวตนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมและส่งเสริมการประกอบธุรกิจให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โดยหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบและออกใบทะเบียนพาณิชย์คือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (Department of Business Development: DBD) สังกัดกระทรวงพาณิชย์


ซึ่งวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียนพาณิชย์ มีดังนี้

  1. เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมสถิติและทราบหลักฐานของผู้ประกอบการพาณิชยกิจที่ถูกต้องเชื่อถือได้

  2. เพื่อประโยชน์ในการควบคุมหรือส่งเสริมด้านการพาณิชย์และการอุตสาหกรรมรวมทั้งเป็นการ ส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

  3. ผู้ประกอบการพาณิชยกิจสามารถใช้เป็นหลักฐานทางการค้าได้


โดยทะเบียนพาณิชย์จะมีเกี่ยวข้องกับพาณิชยกิจหรือกิจการในทางอุตสาหกรรม, หัตถกรรม, พาณิชยกรรม, การบริการ หรือกิจการอื่นๆ ที่เป็นการค้า และผู้ประกอบการพาณิชย์ที่หมายถึงบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่ประกอบกิจการเป็นอาชีพปกติ รวมถึงผู้เป็นหุ้นส่วน, กรรมการ หรือผู้จัดการด้วย ซึ่งแตกต่างจากการจดทะเบียนนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งธุรกิจมีตัวตนแยกจากเจ้าของ สามารถทำสัญญา ถือครองทรัพย์สิน หรือฟ้องร้องได้เอง และความรับผิดชอบทางการเงินจะจำกัดอยู่ที่นิติบุคคล


ธุรกิจแบบใดที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์


หากคุณกำลังเริ่มทำธุรกิจ ไม่ว่าจะขายของออนไลน์ เปิดร้านอาหาร หรือให้บริการต่าง ๆ การจดทะเบียนพาณิชย์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณมีตัวตนถูกต้องตามกฎหมาย และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้าและลูกค้า


ธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์

บุคคลธรรมดา (กิจการเจ้าของคนเดียว) ห้างหุ้นส่วนสามัญ ที่ประกอบธุรกิจประเภทต่าง ๆ เช่น


  1. โรงสีข้าวหรือโรงเลื่อยที่ใช้เครื่องจักร

  2. ขายสินค้า ไม่ว่าจะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง หากขายได้ตั้งแต่ 300 บาทต่อวัน หรือมีสินค้าคงเหลือมูลค่า 10,000 บาทขึ้นไป เช่น ร้านขายของชำ, ร้านขายเสื้อผ้า, ร้านเครื่องเขียน

  3. นายหน้าหรือตัวแทนค้าสินค้า หากมีมูลค่าการค้ารวมตั้งแต่ 300 บาทต่อวัน เช่น ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์, นายหน้าขายรถมือสอง

  4. ประกอบหัตถกรรมหรืออุตสาหกรรม และขายสินค้าที่ผลิตได้ หากมูลค่าการขายต่อวันตั้งแต่ 300 บาท หรือมีสินค้าคงเหลือมูลค่า 10,000 บาทขึ้นไป เช่น ช่างทำเครื่องเงิน, ร้านทำขนมปังหรือเบเกอรี

  5. ซื้อขายสินค้าออนไลน์หรือให้บริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ร้านค้าออนไลน์ขายเครื่องสำอาง, ขายอาหารพร้อมส่งผ่านแอปเดลิเวอรี


ธุรกิจที่ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์

  1. การค้าเร่ การค้าแผงลอย เช่น พ่อค้าแม่ค้าขายผักผลไม้ตามตลาดนัดหรือริมถนน

  2. กิจการเพื่อการบำรุงศาสนาหรือเพื่อการกุศล เช่น ร้านขายของที่ระลึกเพื่อหารายได้สนับสนุนวัดหรือมูลนิธิ

  3. กิจการของนิติบุคคลซึ่งได้มีพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้น เช่น ธนาคารรัฐ

  4. กิจการของกระทรวง ทบวง กรม

  5. กิจการของมูลนิธิ สมาคม สหกรณ์

  6. กิจการซึ่งรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา


ธุรกิจแบบใดที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์

เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์


  • เอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนพาณิชย์ ข้อมูลจาก DBD ในการจดทะเบียนพาณิชย์แต่ละประเภท ผู้ขอจดทะเบียนต้องเตรียมคำขอและเอกสารประกอบสำหรับการจดทะเบียนเรื่องนั้นๆ ให้ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในเอกสารนี้

  • เอกสารต่างๆ สามารถ Download ไปใช้ในการจดทะเบียนได้จาก แบบฟอร์มจากเว็บไซต์ DBD หรือขอรับแบบพิมพ์ได้ที่หน่วยงาน ตามนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตทุกเขต เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และเมืองพัทยา


โดยดูตัวอย่างเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์ อ้างอิงจาก DBD กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ด้านล่างนี้


ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนพาณิชย์


การขอดำเนินการตาม พ.ร.บ. ทะเบียนพาณิชย์ฯ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมตามประเภทของการดำเนินการดังต่อไปนี้

  • จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งใหม่ ค่าบริการ 50 บาท

  • จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน ค่าบริการครั้งละ 20 บาท

  • จดทะเบียนเลิกประกอบพาณิชยกิจ ค่าบริการ 20 บาท

  • ขอให้ออกใบแทนใบทะเบียนพาณิชย์ ค่าบริการ ฉบับละ 30 บาท

  • ขอตรวจเอกสารของผู้ประกอบพาณิชยกิจรายหนึ่ง ค่าบริการ ครั้งละ 20 บาท

  • ขอให้เจ้าหน้าที่คัดสำเนาและรับรองสำเนาเอกสารของผู้ประกอบพาณิชยกิจ ฉบับละ 30 บาท (หนึ่งคำขอ คิดเป็นหนึ่งฉบับ)


หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจดทะเบียนพาณิชย์


  1. ผู้ประกอบพาณิชยกิจต้องยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มประกอบกิจการ (มาตรา 11)   

  2. ผู้ประกอบพาณิชยกิจสามารถยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ด้วยตนเองหรือจะมอบอำนาจให้ผู้อื่นยื่นจดทะเบียนแทนก็ได้   

  3. ให้ผู้ประกอบพาณิชยกิจซึ่งเป็นเจ้าของกิจการ เป็นผู้ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนและรับรองเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียน   

  4. แบบพิมพ์คำขอจดทะเบียน (แบบ ทพ.) หรือหนังสือมอบอำนาจสามารถขอได้จากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ www.dbd.go.th   


หมายเหตุ: ขั้นตอนการดำเนินงานตามคู่มือจะเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในคู่มือประชาชนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ในกรณีที่คำขอหรือเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน และ/หรือมีความบกพร่องไม่สมบูรณ์ เป็นเหตุให้ไม่สามารถพิจารณาได้ เจ้าหน้าที่จะจัดทำบันทึกความบกพร่องของรายการเอกสารหรือเอกสารหลักฐานที่ต้องยื่นเพิ่มเติม โดยผู้ยื่นคำขอจะต้องดำเนินการแก้ไขและ/หรือยื่นเอกสารเพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่กำหนดในบันทึกดังกล่าว มิเช่นนั้นจะถือว่าผู้ยื่นคำขอละทิ้งคำขอ โดยเจ้าหน้าที่และผู้ยื่นคำขอหรือผู้ได้รับมอบอำนาจจะลงนามบันทึกดังกล่าว และจะมอบสำเนาบันทึกความบกพร่องดังกล่าวให้ผู้ยื่นคำขอหรือผู้ได้รับมอบอำนาจไว้เป็นหลักฐาน


ข้อบังคับเกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์


การประกอบธุรกิจในประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย จะต้องเผชิญกับโทษทางกฎหมายที่แตกต่างกันตามความร้ายแรงของการกระทำ


  1. ความผิดเกี่ยวกับการจดทะเบียน ธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามกฎการจดทะเบียนจะต้องเผชิญกับบทลงโทษ เช่น การทำธุรกิจโดยไม่จดทะเบียน การแจ้งข้อมูลเท็จ หรือการไม่ให้ความร่วมมือเมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ผู้กระทำผิดจะต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากยังไม่แก้ไขปัญหา ก็จะถูกปรับเพิ่มวันละ 100 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

  2. ปัญหาเกี่ยวกับใบทะเบียนและป้ายชื่อ ธุรกิจที่มีปัญหาเรื่องเอกสาร เช่น ใบทะเบียนหายแต่ไม่ขอใบใหม่ ไม่แสดงใบทะเบียนให้ลูกค้าเห็นชัดเจน หรือไม่ติดป้ายชื่อร้าน จะต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 200 บาท และหากยังไม่แก้ไข จะถูกปรับเพิ่มวันละ 20 บาท จนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้อง

  3. ความผิดทางการค้าที่ร้ายแรง สำหรับผู้ประกอบการที่กระทำความผิดร้ายแรง เช่น การหลอกลูกค้า การปนสินค้าโดยเจตนาทุจริต การทำสินค้าปลอม หรือการทุจริตในรูปแบบอื่นที่รุนแรง จะถูกถอนใบทะเบียนพาณิชย์และห้ามประกอบธุรกิจต่อ เว้นแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาอนุญาตให้จดทะเบียนใหม่

  4. การฝ่าฝืนหลังถูกถอนใบทะเบียน หากผู้ประกอบการที่ถูกสั่งปิดธุรกิจแล้วยังคงดำเนินกิจการต่อไป จะต้องเผชิญกับโทษที่รุนแรงขึ้น คือ ค่าปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรืออาจได้รับโทษทั้งปรับและจำคุก

 

การปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์อย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกรายต้องให้ความสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับโทษทางกฎหมายที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการดำเนินธุรกิจและชื่อเสียงในระยะยาว


ข้อบังคับเกี่ยวกับการจดทะเบียนพาณิชย์

ทะเบียนพาณิชย์ จุดเริ่มต้นของธุรกิจที่มั่นคงยั่งยืน


เมื่อพูดถึงการทำธุรกิจ หลายคนมักจะคิดถึงกลยุทธ์การขายหรือการตลาดเป็นอันดับแรก แต่ความจริงแล้ว การทำธุรกิจที่ยั่งยืนต้องคิดรอบด้านและต้องถูกต้องตามกฎหมาย การจดทะเบียนพาณิชย์จึงเป็นรากฐานสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามหรือข้ามขั้นตอนนี้เด็ดขาด


ปัจจุบันกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือ DBD ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่สามารถเลือกได้ทั้งการจดทะเบียนพาณิชย์กับเจ้าหน้าที่แบบเดิม และการจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์ที่ให้ความสะดวกมากขึ้นสำหรับการบริการประชาชนและเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่


เมื่อจดทะเบียนการค้ากับ DBD เสร็จสิ้นแล้ว ธุรกิจของคุณจะมีตัวตนที่ชัดเจน พร้อมหลักฐานทางการค้าที่สามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลจาก DBD จะบอกได้ถึงข้อมูลทะเบียนพาณิชย์ แต่อย่าลืมว่าหากมีเลขทะเบียนธุรกิจแล้ว คุณควรคิดต่อไปถึงข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ เช่น ความน่าเชื่อถือของคู่ค้าและความมั่นคงทางการเงิน

 

การจดทะเบียนพาณิชย์กับ DBD ถือเป็นก้าวแรกของผู้ประกอบการที่ต้องการให้ธุรกิจมีตัวตนที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในโลกการค้าจริงๆ แค่มีทะเบียนยังไม่เพียงพอ เพราะคู่ค้าที่คุณจะทำธุรกิจด้วยอาจมีความเสี่ยงทางการเงินที่ซ่อนอยู่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่คุณควรต่อยอดข้อมูลจาก DBD ด้วยเครื่องมืออย่าง Corpus X


Corpus X เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจที่ช่วยตรวจสอบคู่ค้า ประเมินความเสี่ยง และค้นหาโอกาสใหม่ๆ ได้อย่างมั่นใจ คุณสามารถ ทดลองใช้ Corpus X ฟรี เพื่อทำให้การเริ่มต้นธุรกิจไม่ได้หยุดแค่การจดทะเบียน แต่ไปไกลถึงการบริหารความเสี่ยงและการหาคู่ค้าใหม่ที่เชื่อถือได้ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

bottom of page