top of page

ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว vs ทุนจดทะเบียน แตกต่างกันอย่างไร ?


ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว กับ ทุนจดทะเบียน แตกต่างกันอย่างไร

หลายคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจคงเคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน ตอนจะจดทะเบียนบริษัท แล้วต้องกรอกข้อมูลเรื่อง “ทุนจดทะเบียน” กับ “ทุนชำระแล้ว” ปรากฏว่าสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าทุนทั้งสองแบบนี้ คืออะไร เหมือนหรือต่างกันยังไง และต้องชำระทั้งหมดเลยไหม ?


ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับทุนจดทะเบียน และทุนชำระแล้ว อาจทำให้เจ้าของกิจการเสียเปรียบทั้งในด้านภาษี ความน่าเชื่อถือ และแม้กระทั่งการขอสินเชื่อจากธนาคาร หากแจ้งทุนไว้สูงแต่ไม่มีการชำระจริง อาจถูกกรมสรรพากรตรวจสอบ หรือทำให้ภาพลักษณ์บริษัทดูไม่ดีต่อคู่ค้าหรือสถาบันการเงินได้


ในบทความนี้ เราจะมาช่วยไขข้อสงสัยให้ชัดว่า ทุนจดทะเบียนกับทุนชำระแล้ว ต่างกันยังไง พร้อมอธิบายผลกระทบและตัวอย่างให้เข้าใจง่ายที่สุด เพื่อให้คุณวางแผนการเงินและจดทะเบียนบริษัทได้อย่างมั่นใจตั้งแต่ก้าวแรก


ทุนจดทะเบียน คืออะไร ?


ความหมายของทุนจดทะเบียน

ทุนจดทะเบียนบริษัท (Registered Capital) คือ จำนวนเงินทุนที่บริษัทแจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท โดยเฉพาะในรูปแบบ บริษัทจำกัด ทุนนี้จะถูกแบ่งออกเป็น “หุ้น” ที่มีมูลค่าเท่ากัน เช่น หุ้นละ 100 บาท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นถือครองตามสัดส่วนที่ตกลงกัน


จุดประสงค์ของทุนจดทะเบียน

  1. กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้น ทุนการจดทะเบียนบริษัททำหน้าที่เป็นกรอบที่ชัดเจนว่า ผู้ถือหุ้นจะรับผิดในหนี้สินของบริษัทตามจำนวนเงินในหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระเท่านั้น

  2. แสดงศักยภาพทางธุรกิจและความน่าเชื่อถือ ยิ่งบริษัทมีทุนจดทะเบียนบริษัทสูง (และมีทุนชำระแล้วในสัดส่วนเหมาะสม) ก็ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า นักลงทุน และธนาคารได้มากขึ้น

  3. ใช้เป็นฐานในการคำนวณค่าธรรมเนียมและภาษีบางประเภท เช่น คิดค่าอากรแสตมป์ หรือค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ตามมูลค่าทุน

  4. เป็นแนวทางวางแผนการระดมทุนหรือขยายธุรกิจในอนาคต หากบริษัทมีแผนจะเพิ่มผู้ถือหุ้น หรือเปิดรับเงินลงทุนเพิ่มเติม ทุนการจดทะเบียนคือเครื่องมือสำคัญในการรองรับการเติบโตเหล่านี้

  5. ช่วยให้การจดทะเบียนบริษัทเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย การระบุทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วที่ชัดเจน จะทำให้บริษัทดำเนินงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า


ตัวอย่างทุนจดทะเบียนบริษัท

สมมุติว่าจะเปิด บริษัทจำกัด ชื่อว่า “บริษัท AAA จำกัด” โดยวางแผนจะเริ่มจากธุรกิจขนาดเล็ก สรุปทุนจดทะเบียน ดังนี้


  • บริษัทตั้ง ทุนจดทะเบียน ที่ 500,000 บาท

  • แบ่งเป็นหุ้นละ 100 บาท จำนวน 5,000 หุ้น

  • ผู้ถือหุ้นตกลงชำระแล้ว 150,000 บาท (คิดเป็น 30%)


ในกรณีนี้ บริษัทจะต้องจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยระบุทุนจดทะเบียน 500,000 บาท และระบุว่ามีทุนชำระแล้ว 150,000 บาท ซึ่งถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย (เพราะเกิน 25%) เมื่อเวลาผ่านไป หากบริษัทต้องการขยายกิจการ ก็สามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนในภายหลังได้


ทุนจดทะเบียนบริษัท (Registered Capital)


ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว คืออะไร ?


ความหมายของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

ทุนชำระแล้ว (Paid-up Capital) คือ จำนวนเงินที่ผู้ถือหุ้นได้จ่ายเข้ามาจริงให้กับบริษัท จากยอดทุนจดทะเบียนที่ได้แจ้งไว้ตอน จดทะเบียนบริษัท ตัวเลขนี้เป็นเงินทุนที่บริษัทมีอยู่จริงและสามารถนำไปใช้ดำเนินธุรกิจได้ ไม่ใช่แค่ยอดบนกระดาษ เช่น ถ้าบริษัทมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แล้วมีการจ่ายทุนบริษัทเข้ามาแล้ว 300,000 บาท แสดงว่า “ทุนชำระแล้ว” ของบริษัทนั้นคือ 300,000 บาท


จุดประสงค์ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

  1. ข้อบังคับทางกฎหมาย บริษัทต้องมีการจ่ายทุนบริษัท อย่างน้อย 25% ของทุนจดทะเบียน ไม่งั้นอาจถือว่าให้ข้อมูลเท็จ และมีความเสี่ยงด้านกฎหมาย

  2. ส่งผลต่อภาษีและการตรวจสอบจากสรรพากร ถ้าระบุทุนสูงแต่ไม่มีทุนชำระจริง อาจทำให้ถูกสงสัยว่าเลี่ยงภาษี และมีโอกาสถูกตรวจสอบย้อนหลัง

  3. ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท บริษัทที่มีทุนชำระแล้วในสัดส่วนสูงจะดูน่าเชื่อถือในสายตาธนาคาร นักลงทุน และคู่ค้า มากกว่าบริษัทที่แค่ตั้งทุนสูงแต่ยังไม่ได้จ่ายทุนจริง

  4. ส่งผลต่อการขอสินเชื่อหรือออกเอกสารรับรอง การมีทุนชำระแล้วครบถ้วน จะช่วยให้บริษัทได้รับอนุมัติเอกสารหรือขอสินเชื่อจากธนาคารได้ง่ายขึ้น


ตัวอย่างทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

ตัวอย่าง A: ชำระทุน 25% (ตามกฎหมายขั้นต่ำ)

  • บริษัท ABC จำกัด จดทะเบียนทุนไว้ 1,000,000 บาท

  • ผู้ถือหุ้นชำระจริงเพียง 250,000 บาท

  • แบบนี้ถือว่า ทุนชำระแล้ว 25% ซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ


ตัวอย่าง B: ชำระทุน 100% (เต็มจำนวน)

  • บริษัท XYZ จำกัด จดทะเบียนทุน 1,000,000 บาท

  • ผู้ถือหุ้นชำระครบเต็ม 1,000,000 บาท

  • ในกรณีนี้บริษัทจะดูน่าเชื่อถือมาก และพร้อมขยายธุรกิจหรือยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารได้ทันที


ทุนชำระแล้ว (Paid-up Capital)


เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างทุนจดทะเบียนกับทุนชำระแล้ว

ข้อเปรียบเทียบ

ทุนจดทะเบียน (Registered Capital)

ทุนชำระแล้ว (Paid-up Capital)

ความหมาย

จำนวนทุนสูงสุดที่บริษัทแจ้งไว้ตอนจดทะเบียน

จำนวนทุนที่ผู้ถือหุ้นชำระจริงเข้าบริษัทแล้ว

ข้อบังคับทางกฎหมาย

ต้องระบุชัดเจนในหนังสือบริคณห์สนธิ

ชำระขั้นต่ำ 25% ของทุนจดทะเบียนตอนจดทะเบียน

ผลกระทบทางภาษี

ไม่มีผลโดยตรง

มีผลเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคล

ความสำคัญทางธุรกิจ

ใช้ประเมินความน่าเชื่อถือและขนาดกิจการ

ใช้แสดงฐานะการเงินจริงและเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ตัวอย่าง

บริษัทตั้งทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท

ผู้ถือหุ้นชำระทุนแล้ว 250,000 บาท (25% ของทุนจดทะเบียน)

ตัวอย่าง: บริษัท A จำกัด

บริษัท A จำกัด จดทะเบียนบริษัทเมื่อเดือนมกราคม โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับทุนดังนี้:

  • ทุนจดทะเบียน: 1,000,000 บาท

  • จำนวนหุ้น: 10,000 หุ้น (มูลค่าหุ้นละ 100 บาท)

  • ทุนชำระแล้ว: 250,000 บาท (คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน)


กล่าวคือ บริษัท ABC แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าจะมีทุนรวมทั้งสิ้น 1 ล้านบาท แต่ในช่วงเริ่มต้น ผู้ถือหุ้นยังชำระเงินเข้าบริษัทจริงเพียง 250,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด (25%)


ทุนจดทะเบียนสูงดีต่อธุรกิจหรือไม่ ?


เมื่อต้องเริ่มต้นจดทะเบียนบริษัท หนึ่งในคำถามที่ผู้ประกอบการมักสงสัยคือ “ควรตั้งทุนจดทะเบียนบริษัทเท่าไหร่ ?” โดยเฉพาะกรณีที่อยากให้บริษัทดูน่าเชื่อถือ ทุนการจดทะเบียนสูงอาจเป็นคำตอบที่หลายคนเลือก แต่ในความเป็นจริง ทุนที่สูงใช่ว่าจะเหมาะกับทุกธุรกิจเสมอไป


ข้อดีของการตั้งทุนจดทะเบียนสูง

  1. เพิ่มความน่าเชื่อถือ การตั้งทุนจดทะเบียนสูงช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทในสายตาของลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความมั่นคงทางการเงิน ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ย่อมดูน่าเชื่อถือกว่าบริษัทที่มีทุนเพียง 50,000 บาท เมื่อเสนอราคางานหรือเข้าร่วมประกวดราคา หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมักพิจารณาทุนจดทะเบียนเป็นเกณฑ์เบื้องต้น การมีทุนสูงจึงเป็นแต้มต่อที่ช่วยให้ธุรกิจได้รับโอกาสมากขึ้นในตลาดแข่งขันสูง

  2. ดึงดูดนักลงทุน การตั้งทุนจดทะเบียนสูงช่วยดึงดูดนักลงทุนได้ง่ายขึ้น เพราะแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีงบการเงินที่มั่นคงและพร้อมสำหรับการเติบโต ตัวอย่างเช่น นักลงทุนมักสนใจบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนหลายล้านบาท เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่มีแผนระยะยาวและมีศักยภาพ การมีทุนสูงยังช่วยสร้างความมั่นใจว่านักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างเหมาะสม จึงทำให้การระดมทุนและการขยายกิจการเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

  3. ขอกู้ได้ง่าย การตั้งทุนจดทะเบียนสูงช่วยให้บริษัทขอกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น เพราะทุนที่สูงสะท้อนถึงฐานะการเงินที่มั่นคงและความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท มักจะได้รับการพิจารณาสินเชื่อในวงเงินที่สูงกว่าบริษัทที่มีทุนต่ำ เนื่องจากธนาคารมองว่าบริษัทมีความพร้อมในการชำระหนี้ นอกจากนี้ทุนจดทะเบียนสูงยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ให้กู้ว่าเงินทุนของบริษัทมาจากแหล่งที่มั่นคงและโปร่งใส


ข้อเสียของการตั้งทุนจดทะเบียนสูง

  1. ต้องจ่ายอากรแสตมป์ การตั้งทุนจดทะเบียนสูงทำให้บริษัทต้องเสียค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 0.1% ของจำนวนทุนที่จดทะเบียนไว้ ซึ่งเป็นภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นโดยตรง ตัวอย่างเช่น หากตั้งทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท บริษัทต้องจ่ายอากรแสตมป์ถึง 5,000 บาททันทีเมื่อลงทะเบียน ซึ่งอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงและไม่จำเป็นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น นอกจากนี้ยังเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถขอคืนได้ จึงควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนกำหนดทุนจดทะเบียน

  2. ความเสี่ยงด้านภาษีหากไม่ได้ชำระจริง การตั้งทุนจดทะเบียนสูงแต่ไม่ได้ชำระทุนจริงตามที่กฎหมายกำหนด อาจส่งผลให้บริษัทเสี่ยงถูกตรวจสอบและเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ ตัวอย่างเช่น หากบริษัทแจ้งทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท แต่ชำระจริงเพียง 25% หรือ 750,000 บาท โดยไม่มีหลักฐานชัดเจน อาจถูกกรมสรรพากรสงสัยว่าปกปิดข้อมูลหรือหลีกเลี่ยงภาษี นอกจากนี้ยังเสี่ยงถูกลงโทษทางกฎหมายและเสียชื่อเสียง ทำให้การบริหารจัดการทุนจดทะเบียนต้องมีความโปร่งใสและรัดกุม


ควรทุนจดทะเบียนขั้นต่ำเท่าไร ?


ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำสำหรับการจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทยตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า บริษัทจำกัดสามารถตั้งทุนจดทะเบียนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10 บาท โดยคำนวณจากจำนวนหุ้นขั้นต่ำ 2 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 5 บาท


อย่างไรก็ตาม ในการทำธุรกิจจริง ส่วนใหญ่เจ้าของกิจการจะตั้งทุนจดทะเบียนสูงกว่าขั้นต่ำเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตัวอย่างเช่น ธุรกิจขนาดเล็กอาจตั้งทุนที่ประมาณ 100,000 บาท ขณะที่ธุรกิจที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือสูงหรือขยายกิจการอาจตั้งทุนที่ 1,000,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้การตั้งทุนจดทะเบียนให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจจะช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของกิจการในระยะยาว


ทุนชำระแล้วต้องชำระทั้งหมด 100% เลยหรือไม่ ?


จริงๆ แล้วตามกฎหมาย บริษัทจำกัดต้องชำระทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 25% ของทุนทั้งหมดตอนจดทะเบียน ส่วนที่เหลือสามารถทยอยจ่ายทีหลังได้ตามที่บริษัทกำหนดไว้ในข้อบังคับ แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องจ่ายเต็มทั้งหมดตั้งแต่แรก การชำระทุนให้ครบถ้วนตั้งแต่แรกก็ช่วยให้บริษัทดูน่าเชื่อถือมากขึ้น และยังเพิ่มโอกาสขอกู้เงินจากธนาคารหรือดึงดูดนักลงทุนได้ง่ายขึ้นด้วย ดังนั้น ถ้ามีแผนและความพร้อม ก็ควรวางแผนจ่ายทุนชำระแล้วให้รัดกุม เพื่อประโยชน์ทั้งในเรื่องกฎหมายและการทำธุรกิจจริง ๆ ครับ


ไม่ชำระทุนจะผิดกฎหมายหรือไม่ ?


ถ้าบริษัทจดทะเบียนแล้ว แต่ผู้ถือหุ้นไม่ชำระทุนตามที่กำหนด อาจเสี่ยงเจอปัญหาทางกฎหมายได้ เพราะตามกฎหมายบริษัทจำกัดต้องชำระทุนขั้นต่ำ 25% ตอนจดทะเบียน หากไม่ชำระทุนจริงตามจำนวนที่แจ้งไว้ อาจถูกกรมพัฒนาธุรกิจหรือกรมสรรพากรตรวจสอบ และมีโทษปรับหรือบทลงโทษตามมา นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท และอาจกระทบกับการขอสินเชื่อหรือการทำธุรกิจในอนาคต ดังนั้น การชำระทุนจดทะเบียนให้ครบถ้วนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม


ถ้าอยากเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท ต้องทำอย่างไร ?


ถ้าคุณต้องการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท สิ่งแรกที่ต้องทำคือประชุมผู้ถือหุ้นและลงมติอนุมัติการเพิ่มทุน จากนั้นต้องจัดทำเอกสารเสนอแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ พร้อมยื่นเรื่องขอจดทะเบียนเพิ่มทุนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขั้นตอนนี้จะต้องชำระค่าอากรแสตมป์ตามมูลค่าทุนที่เพิ่มด้วย การเพิ่มทุนจะช่วยให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น รองรับการขยายธุรกิจหรือดึงดูดนักลงทุนได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องวางแผนให้รอบคอบ เพื่อให้ขั้นตอนทุกอย่างถูกต้องและราบรื่น


การเข้าใจว่า ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว คืออะไร ถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจ หรือกำลังมองหาแนวทางเพื่อพัฒนาธุรกิจของตัวเองให้เติบโตอย่างมั่นคง เพราะเรื่องทุนจดทะเบียนไม่ได้เป็นแค่ตัวเลขบนเอกสาร แต่มีผลทั้งด้านกฎหมาย ภาษี และภาพลักษณ์ของบริษัทอีกด้วย


นอกจากนี้เรื่องที่อยากแนะนำคือ การศึกษาและเปรียบเทียบทุนการจดทะเบียนบริษัทของบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในตลาดเดียวกัน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมธุรกิจ และยังช่วยเป็นแนวทางสำคัญในการวางแผนเงินทุนหรือเลือกพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่เหมาะสม


เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ง่ายขึ้นและแม่นยำมากกว่าเดิม ทดลองใช้ Corpus X แพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณค้นหาข้อมูลทุนจดทะเบียนและข้อมูลนิติบุคคลได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการทำความเข้าใจตลาด และวางแผนธุรกิจอย่างมืออาชีพ



bottom of page