30 คำศัพท์ Data ที่คนทำธุรกิจต้องรู้ คุยกับใครก็ไม่งง! (Part 2)
- Phannita Yoddamnoen
- 5 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
หลังจากอ่าน Part 1 กันไปแล้ว ถึงเวลาของ Part 2 กับบทความ 30 คำศัพท์ Data ที่คนทำธุรกิจต้องรู้! ครั้งก่อนเราได้พาไปรู้จักคำศัพท์ดาต้าที่เกี่ยวกับ Data Strategy & Management และ Customer & Marketing Data ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะมาทำความรู้จักกับคำศัพท์ดาต้าในหมวดหมวดวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Analytics) และข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) กันบ้าง เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อคุณเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้มากขึ้น การคุยเรื่องข้อมูลกับทีมงานหรือคู่ค้าก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! "Data ไม่ยาก ถ้าคุณเริ่มต้นถูกทาง!!"
หมวดวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Analytics)
1. BI (Business Intelligence) ข่าวกรองธุรกิจ
BI (Business Intelligence) คือ กระบวนการรวบรวม วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลเพื่อช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ BI ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีในการประมวลผลข้อมูล เช่น แดชบอร์ด รายงาน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ธุรกิจสามารถใช้ BI เพื่อตรวจสอบแนวโน้มทางตลาด ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และพฤติกรรมลูกค้า การใช้ BI ช่วยให้บริษัทวางกลยุทธ์ได้ดีขึ้นและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
2.KPI (Key Performance Indicator) ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน
ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicator: KPI) คือ ตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้วัดความสำเร็จขององค์กร ทีมงาน หรือโครงการตามเป้าหมายที่กำหนด KPI สามารถเป็นได้ทั้งเชิงปริมาณ เช่น ยอดขาย รายได้ หรืออัตราการเติบโต และเชิงคุณภาพ เช่น ความพึงพอใจของลูกค้า องค์กรใช้ KPI เพื่อติดตามผลลัพธ์และปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพ การกำหนด KPI ที่เหมาะสมช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลและพัฒนาได้อย่างเป็นระบบ
3.OKR (Objectives and Key Results) เป้าหมายและผลลัพธ์หลัก
OKR (Objectives and Key Results) คือ ระบบการตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้องค์กรและทีมมีทิศทางชัดเจนและวัดผลความสำเร็จได้ ประกอบด้วย Objectives (วัตถุประสงค์) คือ เป้าหมายหลักที่ต้องการบรรลุ และ Key Results (ผลลัพธ์สำคัญ) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้วัดความก้าวหน้าของเป้าหมายนั้น ซึ่ง OKR มีส่วนช่วยให้ทีมมีโฟกัสและสามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างเป็นระบบ หลายองค์กรใช้ OKR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและกระตุ้นนวัตกรรมในองค์กร
4.ROI (Return on Investment) ผลตอบแทนจากการลงทุน
ROI (Return on Investment) คือ ตัวชี้วัดทางการเงินที่ใช้วัดผลตอบแทนจากการลงทุน โดยคำนวณจากกำไรที่ได้รับเทียบกับต้นทุนที่ใช้ไป ROI ช่วยให้องค์กรและนักลงทุนประเมินว่าการลงทุนคุ้มค่าหรือไม่ หาก ROI เป็นบวก แสดงว่าการลงทุนนั้นให้ผลกำไร แต่ถ้าเป็นลบ หมายถึงขาดทุน การใช้ ROI ช่วยในการตัดสินใจลงทุนและวางแผนธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีสูตรคำนวณ คือ ROI = (รายได้ – ต้นทุนของสินค้าที่ขายไป) / ต้นทุนของสินค้าที่ขายไป x 100
5.CLV (Customer Lifetime Value) มูลค่าตลอดอายุลูกค้า
CLV (Customer Lifetime Value) คือ มูลค่ารวมที่ลูกค้าคนหนึ่งสามารถสร้างให้กับธุรกิจตลอดระยะเวลาที่เป็นลูกค้า CLV คำนวณจากรายได้ที่ได้รับจากลูกค้า ลบด้วยต้นทุนในการให้บริการหรือรักษาลูกค้าไว้ ธุรกิจใช้ CLV เพื่อวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการรักษาลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์นานขึ้น ลูกค้าที่มี CLV สูงหมายถึงมีแนวโน้มซื้อซ้ำและสร้างรายได้ระยะยาว การเพิ่ม CLV ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนโดยลดต้นทุนการหาลูกค้าใหม่
6.Customer Analytics การวิเคราะห์ลูกค้า
การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรม ความต้องการ และแนวโน้มในการซื้อ ธุรกิจใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น ประวัติการซื้อ การเข้าชมเว็บไซต์ และข้อมูลโซเชียลมีเดีย เพื่อวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมลูกค้า ข้อมูลที่ได้ช่วยให้บริษัทสามารถปรับกลยุทธ์ทางการตลาด พัฒนาโปรโมชั่น และปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น การวิเคราะห์ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
7.Churn Rate อัตราการสูญเสียลูกค้า
อัตราการสูญเสียลูกค้า (Churn Rate) คือ อัตราการสูญเสียลูกค้าของธุรกิจในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยคำนวณจากจำนวนลูกค้าที่เลิกใช้บริการเทียบกับจำนวนลูกค้าทั้งหมด หากอัตรานี้สูง หมายความว่าลูกค้าละทิ้งบริการมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจ ธุรกิจจึงต้องหาวิธีรักษาลูกค้า เช่น ปรับปรุงบริการหรือเสนอสิทธิพิเศษเพื่อลดช่องว่างของการยกเลิกการซื้อ เพื่อทำให้ธุรกิจรักษาฐานลูกค้าและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
หมวดข้อมูลทางการเงิน (Financial Data)
1.Cost Optimization การเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน
การเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน (Cost Optimization) คือ กระบวนการในการลดค่าใช้จ่ายของธุรกิจโดยไม่ลดทอนคุณภาพหรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดยการวิเคราะห์และปรับปรุงการดำเนินงาน เช่น การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเลือกใช้เทคโนโลยีที่คุ้มค่า หรือการปรับกระบวนการทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลกำไรในระยะยาว
2.Forecasting การพยากรณ์
Forecasting คือ กระบวนการทำนายแนวโน้มหรือผลลัพธ์ในอนาคตโดยใช้ข้อมูลและเทคนิคทางสถิติ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลในอดีต หรือปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ การคาดการ์ณช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้ดียิ่งขึ้น เช่น การคาดการณ์ยอดขาย การจัดการสต็อกสินค้า หรือการตั้งงบประมาณ การทำนายเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลรองรับ และลดความเสี่ยงในการดำเนินงาน
3.Risk Analytics การวิเคราะห์ความเสี่ยง
การวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Analytics) คือ การวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจ โดยใช้ข้อมูลและเครื่องมือทางสถิติเพื่อตรวจสอบปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น ความเสี่ยงทางการเงิน ความเสี่ยงจากตลาด หรือความเสี่ยงด้านความปลอดภัย การวิเคราะห์ความเสี่ยงช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุและจัดการกับความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด
4.Fraud Detection – การตรวจจับการทุจริต
การตรวจจับการทุจริต (Fraud Detection) คือ กระบวนการในการระบุและป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจ โดยการใช้เทคโนโลยีและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติหรือการกระทำที่อาจนำไปสู่การหลอกลวง เช่น การโกงในธุรกรรมทางการเงินหรือการใช้ข้อมูลปลอม การใช้ระบบ Fraud Detection ช่วยให้ธุรกิจลดความเสี่ยงจากการสูญเสียทางการเงินและรักษาความน่าเชื่อถือของแบรนด์
5.Revenue Analytics – การวิเคราะห์รายได้
การวิเคราะห์รายได้ (Revenue Analytics) คือ การวิเคราะห์ข้อมูลรายได้ของธุรกิจเพื่อให้เข้าใจแนวโน้มและปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างรายได้ โดยการใช้เครื่องมือทางสถิติและเทคโนโลยีในการตรวจสอบพฤติกรรมลูกค้า การขาย และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อรายได้ การวิเคราะห์รายได้ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุโอกาสในการเพิ่มรายได้ ปรับปรุงกลยุทธ์การขาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
จากบทความนี้ เราได้พาคุณไปทำความรู้จักกับคำศัพท์ดาต้าในหมวด Business Analytics และ Financial Data ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ, การประเมินผลการลงทุน, การพยากรณ์อนาคต และการลดความเสี่ยง การเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถใช้ข้อมูลในการวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจ และไม่หลงทางในโลกของ Data แน่นอน!!
การที่ได้รู้จักคำศัพท์ Data สายธุรกิจเหล่านี้แล้ว มันอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้คุณพูดคุยเรื่องดาต้าได้อย่างมั่นใจ แต่การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกก็สำคัญไม่แพ้กัน ทดลองใช้ Corpus X แพลตฟอร์มโซลูชั่นที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากคำศัพท์ต่าง ๆ ที่คุณรู้แล้ว ก็อย่าลืมที่จะมองหาเครื่องมือมาเป็นตัวช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลของคุณก้าวไปอีกขั้น!!